Font Size

SCREEN

Profile

Layout

Direction

Menu Style

Cpanel

 

มะเร็งปากมดลูก (Cervical cancer)

 

รศ.ดร.ธีรพร  ชินชัย

ภาควิชาจุลชีววิทยา  คณะแพทยศาสตร์ มศว

 

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่ตรวจพบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงทั่วโลก  สำหรับประเทศไทยมีอัตราการตรวจพบโรคมะเร็งชนิดนี้ในผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 9,999 รายใน 1 ปี (1)  มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Human Papillomavirus (HPV)   โดยสามารถตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสนี้ได้ใน 99.7% ของผู้ป่วยมะเร็ง  ไวรัสชนิดนี้เป็นเชื้อที่ทนทานต่อความร้อนและความแห้งได้ดี  ติดต่อโดยการสัมผัส  ส่วนใหญ่เป็นการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุ  เชื้อไวรัสจะเข้าไปที่ปากมดลูกทำให้ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์และเนื้อเยื่อจนกลายเป็นมะเร็งขึ้นได้  โดยระยะเวลาในการเกิดเป็นมะเร็งนั้นจะใช้เวลาประมาณ 10-15 ปี

 

ไวรัส HPV มีอยู่มากกว่า 100 สายพันธุ์ (genotype)  แต่สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์มีประมาณ 40 สายพันธุ์  และในจำนวนนี้มีประมาณ 15 สายพันธุ์ที่คาดว่าจะก่อให้เกิดมะเร็งขึ้นได้  โดยสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งก็ยังสามารถแบ่งได้อีก 2 กลุ่มคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็ง (high-risk)  และกลุ่มความเสี่ยงต่ำในการก่อมะเร็ง (low-risk) ซึ่งกลุ่มนี้จะทำให้เกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ

 

การลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกทำได้โดยวิธีการตรวจกรองที่เรียกว่าแพปสเมียร์ (Pap smear)  เป็นการตรวจที่ทำควบคู่ไปกับการตรวจภายในของผู้หญิง  โดยผู้หญิงทุกคนควรเริ่มทำการตรวจเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป  วิธีการตรวจนี้สามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70%  ปัจจุบันมีการผลิตวัคซีนเพื่อใช้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกขึ้น  โดยวัคซีนนั้นมี 2 ชนิด  ชนิดแรกเป็น bivalent สร้างจากเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวจัดเป็นสายพันธุ์ความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็ง  ชนิดที่ 2 เป็น tetravalent สร้างจากเชื้อ HPV 4 สายพันธุ์ คือ 6, 11, 16 และ 18  โดยสายพันธุ์ 6 และ 11 ใช้ในการป้องกันหูดหงอนไก่

 

จากผลการศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ของเชื้อ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทย (2) พบว่าหญิงไทยที่เป็นมะเร็งปากมดลูก 155 คนติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ต่างๆเรียงจากมากไปน้อย 5 อันดับแรกคือ สายพันธุ์ 16 (51%) , สายพันธุ์ 18 (20%), สายพันธุ์ 52 (10.3%), สายพันธุ์ 58 (5.8%) และสายพันธุ์ 33 (4.5%)  ถ้าพิจารณาการที่จะนำวัคซีนที่มีอยู่มาใช้ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในประชากรไทยอาจจะประสบผลสำเร็จเพียง 70% เท่านั้น  และความจริงอีกข้อที่ควรนำมาพิจารณาก็คือสายพันธุ์ของ HPV แต่ละแหล่งทั่วโลกก็มีความแตกต่างกัน  ดังนั้นในอนาคตถ้าจะนำวัคซีนมาใช้ในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกควรจะมีการเพิ่มสายพันธุ์ของ HPV ที่เป็นสาเหตุของการก่อมะเร็งปากมดลูกในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ครอบคลุมการติดเชื้อ HPV ในประชากรทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เอกสารอ้างอิง

1. WHO.2010. WHO/ICO Information Centre on HPV and Cervical Cancer (HPV Information Centre). Human Papillomavirus and Related Cancers in Thailand. Summary Report 2010.

2. Chinchai T, Chansaenroj J, Swangvaree S, Junyangdikul P, Poovorawan Y. Prevalence of Human Papillomavirus Genotypes in Cervical Cancer. Int J Gynecol Cancer 2012;22:1063-1068.

 

โพรไบโอติก : จุลินทรีย์เพื่อสุขภาพ 

อาจารย์ ดร. มาลัย ทวีโชติภัทร์: ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

นุษย์รู้จักและคุ้นเคยกับการบริโภคจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในรูปของนมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรืออาหารหมักดองมาแล้วกว่าศตวรรษ จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์เหล่านี้เรียกว่าโพรไบโอติก (probiotics) ซึ่งเป็น จุลินทรีย์ที่มีชีวิต เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้านและช่วยปรับสมดุลย์ของจุลินทรีย์ประจำถิ่นในร่างกาย โพรไบโอติกหลายชนิดเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่นในทางเดินอาหารของมนุษย์ ซึ่งการมีจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่ดีในร่างกายอย่างสมดุลย์หรือมีปริมาณมากพอจะช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ โดยเบื้องต้นจะช่วยลดการเน่าเสีย ลดสารที่เป็นพิษจากอาหาร และสารพิษที่เกิดจากจุลินทรีย์ก่อโรค หรือจุลินทรีย์ที่ไม่ดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ผลิตออกมา

              นปัจจุบันมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนว่า จุลินทรีย์โพรไบโอติกสามารถป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อ หรือโรคที่เกิดจากความผิดปกติต่างๆ ของร่างกาย ช่วยลดความรุนแรงหรือลดระยะเวลาของการเป็นโรคได้ โดยอาศัยคุณสมบัติหรือกลไกต่างๆ อย่างจำเพาะ เช่น การสร้างสารต้านจุลินทรีย์ก่อโรค ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินอาหาร การส่งสัญญานหรือการสร้างสารที่มีผลในการกระตุ้นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันให้มีการปรับภูมิคุ้มกันให้เหมาะสมมากขึ้น โดยเฉพาะช่วยลดการอักเสบและลดอาการของโรคภูมิแพ้บางอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งบางชนิดได้ เป็นต้น  คุณสมบัติของจุลินทรีย์โพรไบโอติกเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์  ซึ่งอาจจะมีความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆอย่าง การนำจุลินทรีย์มาใช้เป็นโพรไบโอติกอาจจะมีสายพันธุ์เดียวหรืออาจจะประกอบด้วยหลายสายพันธุ์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลายด้าน จุลินทรีย์โพรไบโอติกส่วนใหญ่จะเป็นแบคทีเรียกลุ่มแลคโตบาซิลลัส รองลงมาได้แก่ไบฟิโดแบคทีเรียม นอกจากนี้กยังมีสเตร็บโตคอคคัส เชื้อราชนิดแซคคาโรมัยซีส และยีสต์ชนิดแคนดิดา

              พรไบโอติกได้เข้ามามีบทบาทและได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา   ยุโรป และบางประเทศในเอเชีย ทั้งทางด้านการแพทย์ หรืออาหารเพื่อสุขภาพ โดยอยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น ผสมในนมสำหรับทารก ในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรืออาหารเสริมในรูปแคปซูล โดยมีจุลินทรีย์โพรไบโอติกจำนวนหนึ่งหรือหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้จะพบอยู่ในรูปแบบซินไบโอติก  (synbiotics) คือการนำมารวมกันระหว่างโพรไบโอติกกับพรีไบโอติก (prebiotics) เช่น โอลิโกแซคคาไรด์ อินนูลิน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ แต่จุลินทรีย์โพรไบโอติกสามารถย่อยสลายได้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์โพรไบโอติก และช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มขึ้นด้วย ในการบริโภคผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก ควรจะคำนึงถึง ปริมาณ ชนิด และคุณสมบัติของสายพันธุ์ด้วย ซึ่งจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่ดีนอกจากจะมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ขององค์การอาหารและยา องค์การอนามัยโลก และเกณฑ์ของแต่ละประเทศแล้ว ควรจะสามารถมีชีวิตรอดและทนต่อกรดและน้ำดีในทางเดินอาหาร สามารถยึดเกาะกับเซลล์เยื่อบุลำไส้ และมีชีวิตรอดในขั้นตอนการผลิตและตามสภาพการวางจำหน่ายด้วย

 

 

โครงการเผยแพร่ความรู้เรื่องโรคติดเชื้อ ในโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก

     ในการออกให้บริการครั้งนี้เราออกไปให้บริการด้วยสื่อแผ่นพับและการบรรยายที่โรงเรียนอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรักสำหรับเด็กกำพร้าและยากจน ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการซึ่งทางโรงเรียนฯ ได้แจ้งความประสงค์ต้องการได้รับบริการรูปแบบนี้อีก

dscn0577 copy

dscn0588 copy

 dscn0589 copy  dscn0592 copy  dscn0594 copy
 

 

new Blink


โครงการบริการวิชาการ โดยภาควิชาจุลชีววิทยา

 

ปีการศึกษา 2566

 

โรคซิฟิลิส - NEW -

โรคมือเท้าปาก

โรคบาดทะยัก Tetanus 

โรคกระเพาะอักเสบ Gastritis  

 

ปีการศึกษา 2565

 

จริงหรือไม่ ! นมแม่แก้ตาอักเสบ ?   

เชื้อประจำถิ่นสามารถช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้นได้ !!!

ยาอมแก้เจ็บคอช่วยลดอาการได้ จริงหรือ ?

ยุงกัดเยอะ...คือคนเนื้อหอม ?

จริงหรือไม่ ! เนื้อจะดีด้วยยาปฏิชีวนะ

 

ปีการศึกษา 2564

 

How the gut bacteria make you fat ?

Bacteria convert blood group

กลิ่นจากแบคทีเรียที่คุณคาดไม่ถึง

Did you know HIV รู้เร็วยับยั้งได้

แปรงสีฟัน...แหล่งรวมเชื้อโรคที่ถูกมองข้าม

Lactobacillus casei ต้านทาน COLON CANCER ได้จริง !!

 

ปีการศึกษา 2563

 

มาลาเรียเดือดฆ่าซิฟิลิส ดับอนาถ !!!

กระป๋องปิดตาย

Essential oil can replace antibiotic ?

 

ปีการศึกษา 2562

 

Electric bacteria

How gut bacteria affect our mood

 

ปีการศึกษา 2561

 

ซูชิ ซาชิมิ อร่อยอันตราย 

Photorhabdus luminescens 

จ่อน้้าหมักป้าเช็ง น้้าสวรรค์หรือบั่นทอนสุขภาพ

เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการแพทย์ Magneto-Aerotatic Bacteria 

 

ปีการศึกษา 2560

 

ปลาหมึก เรืองแสง ได้จริงหรือ ??

พลาสติกสลดพบแบคทีเรียสลายพลาสติก

เชื่อหรือไม่ว่า "เครื่องเป่าลมสามารถลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์บนมือได้"

ความเชื่อของคนอินเดียเกี่ยวกับแม่น้ำคงคา

สนิมทำให้เกิดโรคบาดทะยักได้จริงหรือ ?

เชื่อหรือไม่ ผู้หญิงที่ติดเชื้อพยาธิไส้เดือนจะมีการตั้งครรภ์สูงขึ้น??

สร้างทองคำบริสุทธิ์จากแบคทีเรีย

การปลูกถ่ายอุจจาระ

 

ปีการศึกษา 2559

 

โรคแอนแทร็กซ์

สิว

โรคกระเพาะอาหาร

งูสวัด

คนอ้วนกับคนผอมจะมีแบคทีเรียนในลำไส้ตางกันไหม 

จริงหรือมั่ว.....? นมแม่แก้ตาอักเสบ

แม่มดแท้หรือเทียม

กินพยาธิลดความอ้วนจริงเหรอ!!! 

 

ปีการศึกษา 2557

 

มารู้จัก ไวรัสซิก้า (Zika virus)

หมัด : ปรสิตใกล้ตัว

กิจกรรมการบริการวิชาการของภาควิชา

 

ปีการศึกษา 2555

 

สื่อเสียง

บริการส่งตรงความรู้ 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโปรไบโอติก

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูก