โดยหลังจากที่ ทางสำนักงานประกันสังคมได้ออกสิทธิประโยชน์ในการตรวจสุขภาพฟรีให้ผู้ประกันตน เริ่มใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 นั่นเอง โดยมีรายละเอียดข่าว
สปส.แจ้ง รพ.คู่สัญญาทั่วประเทศ ดีเดย์ 1 มกราคม 60 ตรวจสุขภาพผู้ประกันตน 12 ล้านคน ความคืบหน้ากรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ออกสิทธิประโยชน์ตรวจสุขภาพให้กับผู้ประกันตนแบ่งเป็นช่วงอายุตามความจำเป็น อาทิ การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข ผู้ประกันตนอายุ 30-39 ปี ตรวจได้ทุก 3 ปี แต่ถ้าอายุ 40-54 ปี ตรวจได้ทุกปี หรือการตรวจน้ำตาลในเลือด อายุ 35-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี หากอายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี ส่วนการเอกซเรย์ทรวงอก ได้ปีละ 1 ครั้ง อายุ 15 ปีขึ้นไป โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 นั้น
แล้วมาดูกันว่าเรานั้นสามารถตรวจอะไรได้บ้าง ?
การตรวจร่างกายของผู้ประกันตนนั้น ได้แบ่งตามกลุ่มอายุ ดังนี้
ตรวจร่างกายตามระบบ
คือ 1.การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test อายุ 15 ปีขึ้นไป โดยให้ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี
2.การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข อายุ 30-39 ปี ความถี่ตรวจได้ทุก 3 ปี อายุ 40-54 ปี ตรวจทุกปี อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเสี่ยง
3.การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์ อายุ 40-54 ปี ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 1-2 ปี 4.การตรวจด้วยสาขา Snellen eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ มี ดังนี้
1.ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC อายุ 18-54 ปี ตรวจ 1 ครั้ง อายุ 55-70 ปี ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
2.การทำงานของไต อายุ 55 ปี ตรวจ 1ครั้งต่อปี
3.ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total HDL cholesterol อายุ 20 ปี ตรวจทุก 5 ปีขึ้นไป
การตรวจอื่นๆ มีดังนี้
1.เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg ตรวจ 1 ครั้ง
2.มะเร็งปากมดลูก Pap Smear ตรวจอายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี อายุ 55 ปีขึ้นไปตรวจตามความเหมาะสม หรือ
3.ตรวจมะเร็งปากมดลูกวิธี VIA อายุ 30-54 ปีขึ้นไปตรวจทุก5 ปี อายุ 55 ปีขึ้นไป แนะนำให้ตรวจแปปสเมียร์
4.ตรวจเลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อไป
การเอ็กซ์เรย์ทรวงอก Chest x–ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้ง
กรณีที่ผู้ประกันตนที่ประสงค์จะเปลี่ยนสถานพยาบาลที่ตนเองเลือก ว่า สปส.ได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนสามารถแจ้งขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขาทุกแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 – 31 มีนาคม 2560
ทั้งนี้การให้บริการตรวจสุขภาพจะเป็นแพคเกจที่มีการกำหนดไว้แล้วตามช่วงอายุของผู้ประกันตนแต่ละคน โดยทางโรงพยาบาลจะเบิกค่าบริการกับทาง สปส.เองคิดตามแพคเกจ ไม่ได้คิดแบบเหมาจ่าย ซึ่งงบประมาณส่วนนี้คาดว่าในปีแรกจะใช้งบประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท โดยผู้ประกันตนนั้นสามารถใช้สิทธิได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถใช้บริการได้ ณ สถานพยาบาลตามรายชื่อในที่ตนเองขึ้นประกันสังคมไว้นั่นเอง