รายงานการประเมินตนเอง
(Unit Profile)
หน่วยงาน แผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรม ชั้น 1
ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ข้อมูล ณ วันที่...... 30 กันยายน 2561........
|
Unit Profile
หน่วยงาน แผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรม ชั้น 1
ทีมนำทางคลินิก/หน่วยงาน......แผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรม.........
1. บริบท (Context) แผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ ให้บริการตรวจรักษา ส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูสภาพแก่ผู้ป่วยศัลยกรรม ด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องปลอดภัยตามมาตรฐานวิชาชีพเพื่อผู้รับบริการปลอดภัยและพึงพอใจ
ก. หน้าที่และเป้าหมาย ให้การบริการอย่างรวดเร็วถูกต้องและผู้ป่วยปลอดภัย
ข. ขอบเขตการให้บริการ
ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยศัลยกรรมทั่วไป ศัลยกรรมระบบประสาท ศัลยกรรมโรคทรวงอก ศัลยกรรมตกแต่งและศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ผู้รับบริการส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัด นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียง จากสถิติปี 2561 ผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 214ราย / วัน ( ต.ค.60-ก.ย.61)และ ปี2562 ผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 184 ราย/วัน ( ต.ค.61-ม.ค.62)
โรคที่พบบ่อย ของศัลยกรรมทั่วไป
1.CA breast
2.Constipation
3.Cholelitiasis
4.Hemorroid
5.CA colon
โรคที่พบบ่อย ของศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ
1. BPH
2. Renal calculi
3. CA prostate
4. Cystitis
5. CA bladder
ค. ผู้รับผลงานและความต้องการที่สำคัญ
ประเภทผู้รับบริการ |
ความต้องการ/ความคาดหวัง |
ผู้ป่วย |
- ต้องการความถูกต้องและรวดเร็ว หายจากโรค - การต้อนรับที่ดีจากเจ้าหน้าที่ พูดจาไพเราะ ความเป็นกันเอง - ทราบข้อมูลการเจ็บป่วย ได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวและแนวทางการรักษาจากแพทย์ - ทราบสิทธิการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษา |
ญาติผู้ป่วย |
- ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย หายจากความเจ็บป่วย - ข้อมูลของการเจ็บป่วยและการรักษา - การบริการที่ประทับใจ สะดวก รวดเร็ว การพูดจาไพเราะของเจ้าหน้าที่ - ทราบสิทธิการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษา |
ผู้รับบริการภายใน (หน่วยงาน/บุคลากรคณะแพทยศาสตร์/ศูนย์การแพทย์ฯ/มศว , นิสิตแพทย์)
ประเภทผู้รับบริการ |
ความต้องการ/ความคาดหวัง |
แพทย์ |
- ช่วยอำนวยความสะดวกในการตรวจรักษา - ซักประวัติผู้ป่วยอย่างถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ รวดเร็ว - จัดเตรียมอุปกรณ์ในห้องตรวจพร้อมใช้มีระเบียบ สะดวกใช้ |
ศูนย์รับผู้ป่วยใน |
- ข้อมูลผู้ป่วยถูกต้องก่อนทำเรื่องนอนโรงพยาบาล - บันทึกข้อมูลในประวัติให้ครบถ้วน - ผู้ป่วยที่มีอาการไม่คงที่ควรมีเจ้าหน้าที่ไปส่งด้วยทุกครั้ง - มีการประสานงานที่ถูกต้อง - มีการแจ้งสิทธิการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษา |
งานอุบัติเหตุฉุกเฉิน |
- การประเมินสภาพผู้ป่วยและการส่งต่อต้องถูกต้องและครบถ้วน รวดเร็ว - ผู้ป่วยที่มีอาการไม่คงที่ควรมีเจ้าหน้าที่ไปส่งด้วยทุกครั้ง - บันทึกข้อมูลในประวัติให้ครบถ้วน - มีการประสานงานที่ถูกต้อง |
งานห้องผ่าตัด |
- มีการอธิบายขั้นตอนการการรับริการที่ถูกต้อง ครบถ้วน - ให้ข้อมูลก่อนลงนามในใบยินยอมทำหัตถการ - บันทึกข้อมูลในประวัติให้ครบถ้วน ถูกต้อง - มีการประสานงานที่ถูกต้อง - มีการแจ้งสิทธิการรักษาและค่าใช้จ่ายในการรักษา |
หน่วยจ่ายกลาง |
- ปฏิบัติได้ถูกต้องตามหลักการส่งและรับของปราศจากเชื้อ - มีการประสานงานที่ถูกต้อง |
งานเภสัชกรรม |
- มีการประสานงานที่ถูกต้อง - กรณีผู้ป่วยแพ้ แนะนำให้ผู้ป่วยพบเภสัชกรเพื่อบันทึกประวัติแพ้ยา - ใบสั่งยาถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน - แนะนำเรื่องยานอกสิทธิการรักษาถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น - มีการบันทึกรายงานจากแพทย์ในกรณีผู้ป่วยแพ้ยา |
สิทธิประโยชน์ |
- มีการประสานงานที่ถูกต้อง - เอกสารที่มีการเสนอขออนุมัติ ครบถ้วน ถูกต้อง ชัดเจน |
เวชระเบียน |
- มีการส่งประวัติ วันต่อวัน - บันทึกข้อมูลในประวัติให้ครบถ้วน ถูกต้อง - มีการประสานงานที่ถูกต้อง |
งานเอ็กซเรย์ |
- กรอกข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ หรือ ใบส่งตรวจให้ถูกต้องชัดเจน - มีการประสานงานที่ถูกต้อง |
งานพยาธิ |
- กรอกข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ หรือ ใบส่งตรวจให้ถูกต้องชัดเจน - มีการประสานงานที่ถูกต้อง |
ง. ประเด็นคุณภาพที่สำคัญ
1.ผู้ป่วยวิกฤตได้รับการดูแลอย่างถูกต้องรวดเร็วปลอดภัยไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนได้แก่ผู้ป่วย
1.1. Pain score > 5
1. 2.T > 38
1.3. ผู้ป่วยที่มีสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลง ( BP>140/90 mmHg. P >100 /min และ
BP <90/ 60 mmHg. P < 60/ min )
2.ผู้ป่วยได้รับการประเมินคัดกรองอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
และอะไรคือความท้าทายที่สำคัญของหน่วยงาน
1.พัฒนากระบวนการดูแลผู้ป่วย
1.1.มีการประเมินความเจ็บปวดของผู้ป่วยทุกราย
1. 2.ผู้ป่วยได้รับการดูแลถูกต้อง รวดเร็ว
1.3. สามารถประเมินอาการผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและเหมาะสม
2.การให้บริการอย่างประทับใจเพื่อสู่องค์กรชั้นนำด้านบริการสุขภาพ
จ. ความท้าทาย ความเสี่ยงสำคัญ (นำสู่การพัฒนาคุณภาพ กรณีกลุ่มงานคลินิก กำหนด Specific Clinical Risk/ Common Risk)
Specific Clinical Risk
กลุ่มโรค/หัตถการ |
Specific clinical Risk |
Appendicitis |
Rupture appendicitis |
LGIB |
BP drop (90/60 mmHg.) |
Cellulitis |
Fever T>38 |
DMfoot |
Hypoglycemia / Hyperglycemia(แผลเบาหวานขณะรอตรวจ) |
ESWL |
Severe Pain , BP drop ( 90/60 mmHg) |
ESRD |
AVF rupture , BP drop ( 90/60 mmHg), สิทธิและค่าใช้จ่ายกรณีทำเส้นฟอกไต |
Common Risk
1.อุบัติการณ์ผู้ป่วยมีภาวะทรุดลงระหว่างรอตรวจ
2.อัตราการการติดเชื้อของแผลผ่าตัด
3.อุบัติการณ์การคัดกรองผิดพลาด
4.อุบัติการณ์การระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด
5.อัตราความคลาดเคลื่อนทางยา
ฉ. ปริมาณงานและทรัพยากร
ตารางข้อมูลจำนวนผู้รับบริการปี..2559-2561....
ลักษณะงานที่สำคัญ |
ปีงบประมาณ 2559 |
ปีงบประมาณ 2560
|
ปีงบประมาณ 2561
|
จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ (ราย) |
41,693 |
45,014 |
52,268 |
ตารางจำนวนแพทย์และบุคลากร
บุคลากร |
จำนวน (คน) |
ศักยภาพ |
พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล พนักงานการจัดการ พนักงานวิชาชีพ |
4 11 1 1 |
ขาดอัตรากำลังพยาบาล 1 ในการดูแลผู้ป่วยทำหัตถการESWL
|
จากการวิเคราะห์อัตรากำลังพบว่ายังขาด พยาบาลวิชาชีพ 1 ตำแหน่ง
เครื่องมือ
เครื่องมือ |
จำนวน (เครื่อง) |
ศักยภาพ |
เครื่องอัลตร้าซาวด์ เครื่องวัดความดันดิจิตอล เครื่องจี้ เครื่องดูดเสมหะ เครื่องตรวจ UDM เครื่องตรวจ Uro Flow เครื่องComputer ระบบ EMR |
1 เครื่อง 2 เครื่อง 1 เครื่อง 1 เครื่อง 1 เครื่อง 1 เครื่อง 18 เครื่อง |
พร้อมใช้งาน พร้อมใช้งาน พร้อมใช้งาน พร้อมใช้งาน อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง ไม่เพียงพอและระบบมีความล่าช้า |
หมายเหตุ : ตารางข้อมูลสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามข้อมูลของหน่วยงาน
2. กระบวนการสำคัญ (Key Processes)
วิเคราะห์ตามภาระงานหลักของหน่วยงาน
CLT/หน่วยงานคลินิก กระบวนการสำคัญตามกระบวนการดูแลผู้ป่วย มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ตอนที่ III
กระบวนการสำคัญ (Key Processes) |
สิ่งที่คาดหวัง จากกระบวนการ (Process Requirement) |
ความเสี่ยง /ปัญหา /โอกาสพัฒนา |
ตัวชี้วัดสำคัญ (Performance Indicator) |
1.การเข้าถึงและการเข้าบริการ
|
รวดเร็ว ถูกต้องและปลอดภัย
|
การประเมินที่ผิดพลาด ล่าช้า |
-อุบัติการณ์การประเมินผู้ป่วยผิดพลาด - ระยะเวลารอคอยคัดกรอง |
2.การประเมินผู้ป่วย การประเมินแรกรับ / กลุ่มเสี่ยง ฉุกเฉิน วิกฤต - Pain > 7 - Fever T. > 38c - V/S ที่ผิดปกติ - Bleeding / shock |
- ผู้ป่วยได้รับการประเมินอาการ ปัญหา/ความเสี่ยง อย่างถูกต้องรวดเร็ว -ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงทางคลินิกได้รับการดูแลให้ปลอดภัยไม่มีภาวะแทรกซ้อน -ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะวิกฤต
|
-การซักประวัติและประเมินอาการไม่ครอบคลุมและผิดพลาด -เจ้าหน้าที่ขาดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการคัดกรอง |
- อุบัติการณ์ผู้ป่วยเข้าสู่สภาวะวิกฤต ฉุกเฉิน เนื่องจากการประเมินผิดพลาด/ล่าช้า
|
3. การวางแผนและการดูแลตรวจรักษาผู้ป่วย - การรักษาทางยา - การทำหัตถการ - เตรียมความพร้อมก่อนส่งผู้ป่วยผ่าตัด OPD case
|
-ผู้ป่วยได้รับการวางแผนดูแลอย่างเหมาะสมตามปัญหาและความต้องการ -ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยรักษาอย่างถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพ -ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐาน /CPG/Guidelineเฉพาะโรคอย่างเหมาะสม -ผู้ป่วยปลอดภัยจากClinical risk ภาวะแทรกซ้อน - ผู้ป่วยได้รับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดอย่างถูกต้อง ครบถ้วน |
-ขาดความรู้และไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด |
- อัตราความตลาดเคลื่อนทางยา - ร้อยละการปฏิบัติตาม CPG - ร้อยละการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยที่ได้รับการเตรียมตัวผ่าตัด
|
4.การวางแผนจำหน่ายและการดูแลต่อเนื่อง - การส่งเสริมสุขภาพและการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม - การติดตามหลังการจำหน่าย เช่น การดุแลแผล การทำแผล - การส่งต่อผู้ป่วย |
- ผู้ป่วยและครอบครัว ได้รับข้อมูลที่จำเป็น ต่อการรักษาและการดูแลตนเองที่สอดคล้องกับโรค - ผู้ป่วยและครอบครัว สามรถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสมถูกกับโรค - มีการส่งต่อข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง
|
-การวางแผนการจำหน่ายไม่ครอบคลุม ขาดการติดตามและส่งต่อข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
- ร้อยละในการปฏิบัติตัวได้ถูกต้องหลังการผ่าตัดเต้านม(แขนไม่บวม ไหล่ไม่ติด) |
5. การให้ข้อมูลและเสริมพลังแก่ผู้ป่วย/ครอบครัว |
-ผู้ป่วยและครอบครัวดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง เช่นลดอัตราการเกิดแผลติดเชื้อ หรือกลับมาเป็นซ้ำในโรคที่ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตประจำวัน
|
-การให้ข้อมูลไม่ชัดเจนไม่ครบถ้วน ใช้ภาษาที่เข้าใจยาก |
-ผู้ป่วยและครอบครัวปฏิบัติตนตามคำแนะนำได้อย่างถูกต้อง |
6. การดูแลต่อเนื่อง |
-ผู้ป่วยได้รับการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง |
-ขาดการติดตามผู้ป่วยมารับการรักษาต่อเนื่อง (ในผู้ป่วยกลุ่มโรคสำคัญ เช่น มะเร็งเต้านม )
|
-ร้อยละของผู้ป่วยที่มารับการติดตามการักษาต่อเนื่อง |
3. ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (Performance Indicator)
ตัวชี้วัด |
เป้าหมาย |
ระดับที่ปฏิบัติได้ ( ปีงบประมาณ) |
||
2559 |
2560 |
2561 |
||
1.อุบัติการณ์ผู้ป่วยมีภาวะทรุดลงระหว่างรอตรวจ ภาวะน้ำตาลต่ำ-สูง,ความดันต่ำ-สูง |
0 ครั้ง |
0 |
0 |
6 |
2.ร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัด ( ถูกต้องครบถ้วน ) |
100 % |
100 |
100 |
100 |
3.ระยะเวลาการรอคอยในการับบริการทั้งหมด |
< 30 นาที |
5.34 |
6.05 |
5.69 |
4.อัตราความพึงพอใจ |
> 85% |
96 |
98 |
91.58 |
5.อัตราความสมบูรณ์ของบันทึกทางการพยาบาล |
95 % |
98.8 |
99 |
99 |
6.อัตราความคลาดเคลื่อนทางยา |
0 ครั้ง |
0 |
0 |
1 |
7.จำนวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบริการ |
< 2ฉบับ/เดือน |
1 |
1 |
3 |
8.อุบัติการณ์การคัดกรองผิดพลาด |
5 ครั้ง / เดือน |
2 |
0 |
2 |
9.อุบัติการณ์การระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด ระดับ B ระดับ C |
5 ครั้ง / เดือน |
0 |
0 |
0 |
10.อัตราการติดเชื้อของแผลผ่าตัด |
0 ราย |
0 |
0 |
0 |
11.อัตราการประเมินค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทางศัลยกรรมถูกต้องครบถ้วน |
100 % |
NA |
100 |
100 |
12.อัตราการส่ง Consult Med pre-op |
100 % |
100 |
100 |
100 |
หมายเหตุ ระยะเวลาการรอได้นำข้อมูลมาจากระบบ EMR
จำนวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบริการ
เป้าหมาย<2 ฉบับ/เดือน
แผนภูมิแสดงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบริการ
\s
สรุปผลการดำเนินการ
จำนวนข้อร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมบริการ ยังมีข้อร้องเรียนอยู่ จึงได้มีการทบทวนเพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการปฏิบัติงานและส่งเสริมพฤติกรรมบริการที่ดีขึ้น เพื่อลดข้อร้องเรียนต่อไป
4. กระบวนการหรือระบบงานเพื่อบรรลุเป้าหมายและมีคุณภาพ
4.1 ระบบงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (อ้างถึง CPG, Care Map, WP, WI)
- ระบบการประเมินความเสี่ยงแรกรับ มีการประเมินภาวะสุขภาพ/ ปัญหา และการประเมินความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว เช่น การประเมินความเจ็บปวด ภาวะช็อค ผู้ที่มีสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลง ให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วปลอดภัย ไม่มีภาวะแทรกซ้อนปลอดภัยจากภาวะวิกฤต
- ระบบบัตรคิวคู่ จัดระบบบัตรคิวให้ผู้ที่รอตรวจ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ทราบคิว คิวรอตรวจ ช่วยลดความวิตกกังวล และทราบระยะเวลารอคอยโดยประมาณได้
- การเตรียมผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลและผ่าตัด จัดทำแนวทางการเตรียมความพร้อมแก่ผู้ป่วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการที่แพทย์นัดผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล โดยให้ข้อมูลการเตรียมตัวนอนโรงพยาบาล ตรวจสอบสิทธิการรักษา การแจ้งค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยประมาณ และลดระระเวลาการรอคอยในผู้ป่วยที่นัดมานอนโรงพยาบาลและผ่าตัด
- การเตรียมความพร้อมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดOPD case เนื่องจากพบความผิดพลาดในการเตรียมความพร้อม หลังการผ่าตัด จึงได้พัฒนากิจกรรมคุณภาพ CQI เรื่อง เราอาสาติดตาม ถามแล้วต้องรู้ จัดทำเป็นแนวทางในการติดตามผู้ป่วยก่อนวันนัด 1 วัน เพื่อให้ผู้ป่วยเตรียมความพร้อมก่อนมาทำการรักษา โดยมีการประสานงานระหว่าง พยาบาล แพทย์ และห้องผ่าตัด ทำให้เกิดความผิดพลาดลดลง
4.2 การพัฒนาคุณภาพที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
- KM เรื่อง แนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อผู้ป่วยพบเชื้อ CRE ,VRE ในแผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรม เนื่องด้วยแผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรมประสบปัญหาเกี่ยวกับการดูแล ป้องกันผู้ป่วยติดเชื้อ CRE,VRE อันได้แก่ ขาดการสื่อสารที่ชัดเจนในกรณีที่ผู้ป่วยมีนัดติดตามการรักษา ขาดทักษะวิธีการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่พบเชื้อ ทำให้ทางแผนกผู้ป่วยนอกศัลยกรรมประเมินผู้ป่วยได้ล่าช้าและการเฝ้าระวังไม่เพียงพอ เพื่อเป็นการหาแนวทางและป้องการแพร่กระจายเชื้อให้เป็นไปในทางเดียวกันจึงได้จัดทำแพ่นพับเพื่อให้ผู้ป่วยและญาติได้ทราบและเข้าใจในการเตรียมตัวก่อนมารับการติดตามการรักษา (เอกสารแนบ 1 )
- Lean เรื่องการลดขั้นตอนในการตรวจวินิจฉัยในผู้ป่วยที่ได้รับการกระแทกทรวงอก อยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูล
5.แผนการพัฒนาต่อเนื่อง (เพื่อตอบสนอง 1. ตัวชี้วัดที่ไม่บรรลุเป้าหมาย, ความท้าทายสำคัญของหน่วยงาน, ความเสี่ยงสำคัญที่ยังเป็นปัญหา)
- พัฒนาเรื่องการระบุตัวผู้ป่วยผิดพลาด เนื่องจากพบปัญหาผู้ป่วยชื่อเดียวกัน แต่คนละนามสกุล ทำให้เกิดความผิดพลาดในการระบุตัวผู้ป่วย ซึ่งจะนำเรื่องการระบุตัวมาทบทวนและพัฒนาต่อไปโดยตรวจสอบชื่อ นามสกุล บัตรนัด ใบนำทาง แฟ้มประวัติและตัวผู้รับบริการให้ตรงกัน ลดเสียงรบกวนขณะปฏิบัติงาน
- พัฒนาเรื่องการประเมินค่าจ่ายส่วนเกินในทุกสิทธิในการรักษา เนื่องจากผู้ป่วยทุกรายได้รับการวางแผนการรักษาล่วงหน้าในการผ่าตัดทางศัลยกรรม จึงนำเรื่องนี้มาทบทวนเพื่อเป็นการเหลือช่วยผู้ป่วยในการวางแผนการรักษาเตรียมความพร้อมเรื่องสิทธิและค่าใช้จ่าย ลดปัญหาเรื่องการเลื่อนผ่าตัดเนื่องจากสิทธิการรักษาและค่าใช้จ่ายไม่พร้อม
- พัฒนาและติดตามต่อเนื่องเรื่องการเตรียมตัวผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดในเรื่องการงดยาละลายลิ่มเลือด
เนื่องจากยังพบปัญหาผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือดแต่ยังไม่ได้งดยาตามกำหนด ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยและต้องเลื่อนการผ่าตัด เมื่อทบทวนในเรื่องนี้แล้วพบปัญหาเกิดจาก เจ้าหน้าที่ไม่ได้แนะนำ ญาติที่พาผู้ป่วยมาหลายคน ผู้ป่วยสูงอายุ จึงได้จัดทำใบเตือนผู้ป่วยให้งดยาละลายลิ่มเลือด ( เอกสารแนบ 2 )