เรื่อง..มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colon Cancer) คือมะเร็งที่เกิดกับส่วนใดส่วนหนึ่งในลำไส้ใหญ่ โดยเริ่มตั้งแต่ส่วนที่ต่อจากลำไส้เล็กไปจนถึงส่วนปลายที่ติดกับทวารหนัก การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนมากจะเริ่มจากการเกิดติ่งเนื้อขนาดเล็กภายในลำไส้ใหญ่จนเกิดการพัฒนากลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
ผู้ป่วยแต่ละคนอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่เกิดเนื้องอก ในผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีอาการในช่วงแรกเริ่มเมื่อเป็นโรคได้หลายปี แต่เมื่อโรคเกิดการพัฒนาจนรุนแรงขึ้นถึงจะมีอาการแสดงออก ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้
หากสังเกตว่าเริ่มมีอาการหลายอย่างของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ข้างต้น โดยเฉพาะการถ่ายเป็นเลือดหรือนิสัยการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ควรมีการพบแพทย์เพื่อตรวจเบื้องต้นเพื่อค้นหาโรค เพราะโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ไม่มีอาการที่เฉพาะเจาะจง
สาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่พบปัจจัยที่มีส่วนที่ทำให้เกิดโรคได้หลายปัจจัย ดังนี้
การกลายพันธุ์ของยีน ยีนที่เกิดการกลายพันธุ์จะไม่สามารถควบคุมการทำงานของเซลล์จนเติบโตกลายเป็นเซลล์มะเร็งลุกลามไปยังเซลล์ข้างเคียงก่อนจะก่อตัวเป็นเนื้อร้ายได้ ซึ่งยีนอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย และจะถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมการทำงานเซลล์ต่าง ๆ จากรุ่นไปสู่อีกรุ่น
การรับประทานอาหาร รูปแบบการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบตะวันตกมากขึ้น ซึ่งเป็นอาหารประเภทไขมันสูงและมีกากใยอาหารต่ำ โดยพบว่าผู้ที่มีการกินอาหารในลักษณะนี้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ถึงความสัมพันธ์ของการเกิดโรคและอาหารการกินที่ชัดเจน
สาเหตุอื่น อาจถูกกระตุ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น
การวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่
เมื่อคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการสังเกตอาการของโรค แพทย์จะสอบถามประวัติอาการและการรักษาตัวของผู้ป่วย ประวัติการป่วยของบุคคลในครอบครัว ตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะบริเวณท้อง และอาจตรวจบริเวณทวารหนัก รวมไปถึงการตรวจพิเศษอื่น ๆ เช่น
การตรวจเลือด (Blood Tests) วิธีการตรวจเลือดไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือไม่ แต่เป็นการตรวจดูสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย เช่น การทำงานของไตและตับ เพื่อดูความผิดปกติในการทำงานของระบบทางร่างกาย รวมไปถึงการตรวจดูระดับของคาร์ซิโนเอมบริโอนิก แอนติเจน (Carcinoembryonic Antigen หรือ CEA) ซึ่งเป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อร่างกายเป็นมะเร็ง เพื่ออาจใช้ในการติดตามการรักษาของโรคในภายหลัง ทั้งนี้สารมะเร็งอาจสร้างได้จากมะเร็งชนิดอื่นด้วย จึงไม่สามารถใช้ผลการตรวจเลือดในการวินิจฉัยได้
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยต้องดูความรุนแรงของโรคและชนิดของมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ผู้ป่วยเป็น ทั้งนี้อาจใช้การรักษาเพียงวิธีเดียวในการรักษาหรือใช้หลายวิธีสลับกัน
การผ่าตัด เป็นการรักษาหลักที่แพทย์มักใช้ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งเกิดบริเวณส่วนใด รุนแรงมากน้อยแค่ไหน การรักษาด้วยการผ่าตัดมักต้องรักษาควบคู่กับการทำเคมีบำบัด อาจเป็นก่อนหลังการผ่าตัดก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การรักษาด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือที่รู้จักกันในชื่อของ คีโม เป็นการใช้ยาในหลายรูปแบบ เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตหรือทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยเป็นวิธีการรักษาที่อาจใช้หลังการผ่าตัด เนื่องจากเซลล์มะเร็งได้มีการลุกลามเข้าไปในต่อมน้ำเหลือง และช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาของเซลล์มะเร็งได้ หรืออาจใช้ก่อนวิธีการผ่าตัด เพื่อให้เซลล์มะเร็งมีขนาดเล็กลง ในผู้ป่วยที่มีการกระจายของเซลล์มะเร็งไปทั่วร่างกายจะช่วยบรรเทาอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนารูปแบบของการรักษาด้วยเคมีบำบัด ที่เรียกว่า ยาตรงเป้า (Targeted Therapy) ให้เป็นทางเลือกของการรักษาผู้ป่วยที่มีเซลล์มะเร็งตอบสนองต่อยา ซึ่งตัวยาจะมีฤทธิ์เข้าไปยับยั้งกระบวนการสร้างเซลล์มะเร็งโดยตรง ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องตรวจชิ้นเนื้อจากก้อนมะเร็ง เพื่อให้ทราบผลการตอบสนองของเซลล์มะเร็งต่อยาก่อน
การฉายรังสี (Radiation Therapy) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะต้น ๆ โดยการฉายรังสีพลังงานสูงเข้าไปบริเวณที่มีก้อนมะเร็ง เพื่อช่วยลดขนาดของก้อนเนื้องอกให้เล็กลงก่อนการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้กำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจเติบโตขึ้นมาใหม่หลังการผ่าตัด รวมไปถึงบรรเทาอาการที่เกิดจากโรค วิธีนี้มักใช้รักษาผู้ป่วยควบคู่กับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Supportive/Palliative Care) เป็นวิธีการดูแลผู้ป่วยที่มุ่งเน้นในการบรรเทาความเจ็บปวดและอาการร้ายแรงอื่น ๆ ที่ทำให้ทุกข์ทรมาน ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ แพทย์ พยาบาล รวมไปถึงครอบครัวของผู้ป่วยเอง โดยจะใช้ควบคู่กับวิธีการรักษาอื่นที่เหมาะสมไปด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น มีชีวิตที่ยาวนานขึ้น รวมไปถึงมีคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว
ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลายกรณี โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งประเภทของมะเร็ง วิธีการรักษา การตอบสนองของร่างกายผู้ป่วยในหลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้ ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไปตามผู้ป่วยแต่ละราย ผู้ป่วยอาจเสี่ยงต่อภาวะลำไส้ตีบตัน เนื่องจากการมีก้อนเนื้อมะเร็งขวางอยู่ภายในลำไส้ รวมไปถึงพบผลข้างเคียงหลังการรักษาในหลายด้าน เช่น แผลติดเชื้อหลังการผ่าตัด ภาวะเลือดออก ผลกระทบกระเทือนด้านจิตใจและอารมณ์ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย นอกจากนี้ผู้ป่วยในระยะลุกลามอาจเกิดมะเร็งบริเวณอวัยวะอื่นในร่างกาย เนื่องจากการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งในกระแสเลือดสู่อวัยวะภายในร่างกาย
การป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่สามารถป้องกันได้หลายวิธี คือ