เชื้อไวรัสก่อโรค COVID-19 มีชื่อทางการว่าอะไร?
- เชื้อไวรัส Severe Acute Respiratory Syndrome-Coronavirus-2 (SARS-CoV-2) เป็นเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยมีชื่อโรคติดเชื้อชนิดนี้ว่า Coronavirus disease 2019 (COVID-19)
การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองต่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 คืออะไร
- การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองหลังการฉีดวัคซีน หรือหลังการติดเชื้อก่อโรค COVID-19 (เชื้อ SARS-CoV-2)
การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองหลังการฉีดวัคซีน หรือหลังการติดเชื้อก่อโรค COVID-19 มีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีความสำคัญอย่างไร?
- การตรวจวัดระดับภูมิตอบสนองหลังการฉีดวัคซีน หรือหลังการติดเชื้อก่อโรค COVID-19 แบ่งเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1. Antibody against spike protein of SARS-CoV-2 การวัดระดับภูมิตอบสนอง (Antibody) ต่อส่วน Spike protein ของเชื้อ SARS-CoV2 เป็นการวัดระดับภูมิตอบสนองโดยรวมที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากได้รับวัคซีน หรือหลังการติดเชื้อ การวัดระดับภูมิตอบสนองชนิดนี้ เปรียบได้กับการวัดจำนวนนายทหารทั้งหมด ซึ่งอาจมีทั้งนายทหารที่ชำนาญ และไม่ชำนาญการรบต่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งจะเป็นการตรวจวัดระดับภูมิตอบสนองโดยรวมซึ่งอาจจะมีทั้งชนิด Non-Neutralizing(ภูมิตอบสนองที่ไม่สามารถยับยั้ง หรือป้องกันเชื้อไวรัสได้) และชนิด Neutralizing Antibody (การวัดระดับภูมิตอบสนองชนิดที่สามารถยับยั้งหรือป้องกันเชื้อไวรัสได้) ดังนั้นจึงมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถแยกได้ว่ามีส่วนของระดับภูมิตอบสนองชนิดที่สามารถยับยั้งหรือป้องกันเชื้อไวรัสได้ ในสัดส่วนเท่าใด
2. Neutralizing Antibody การวัดระดับภูมิตอบสนอง (Antibody) แบบจำเพาะต่อชนิดที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้ง หรือป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกายเท่านั้น โดยภูมิตอบสนองชนิดนี้ เชื่อว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ การวัดระดับภูมิตอบสนองชนิดนี้จึงเปรียบได้กับการวัดจำนวนนายทหารที่ชำนาญการรบต่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 นั่นเอง
การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองชนิด Neutralizing Antibody เพื่ออะไร
- ผู้ฉีดวัคซีน หรือผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อก่อโรค COVID-19จะมีการสร้างภูมิตอบสนองต่อส่วน Spike protein ซึ่งอาจมีหรือไม่มีภูมิตอบสนองชนิดที่สามารถยับยั้ง หรือป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกาย (Neutralizing Antibody) ดังนั้นการตรวจหาภูมิตอบสนองชนิด Neutralizing Antibody จะสามารถบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของภูมิตอบสนองที่สามารถยับบั้งและป้องกันไวรัสก่อโรค COVID-19นั่นเอง
การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองต่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 หรือเชื้อไวรัสก่อโรค COVID-19 เหมาะสำหรับใคร
- ผู้ที่ต้องการทราบระดับภูมิตอบสนองต่อการฉีดวัคซีนหรือหลังติดเชื้อไวรัสก่อโรค COVID-19
- การตรวจหาระดับภูมิตอบสนองนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อวินิจฉัยว่ากำลังติดเชื้ออยู่หรือไม่
ควรตรวจช่วงเวลาไหน
- ควรเจาะเลือดตรวจหาภูมิตอบสนองหลังฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนด 14-28 วัน (ขึ้นกับชนิดวัคซีนที่ฉีด) แต่ไม่ควรนานเกิน 3 เดือน
กรณีตรวจภูมิตอบสนองให้ผลบวก (Positive) ต้องใส่หน้ากากอนามัยต่อหรือไม่
- การตรวจพบภูมิตอบสนองไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสในการติดเชื้อ หรือถ้าหากติดแล้วจะไม่แพร่เชื้อให้บุคคลอื่น ดังนั้นยังคงแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด
กรณีตรวจภูมิตอบสนองให้ผลลบ (Negative) หลังฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนดเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง
ผลการตรวจไม่พบภูมิตอบสนอง หลังจากได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่
- เก็บตัวอย่างส่งตรวจก่อนการสร้างภูมิตอบสนอง
- เป็นผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ชนิดของวัคซีน และภาวะการตอบสนองของร่างกายในแต่ละบุคคล
ภาพและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถดาวน์โหลดเอกสาร PDF
ได้ที่นี่ >>> CLICK HERE <<<
ทนพญ.พรพรรณ โรจนแสง
นักเทคนิคการแพทย์