ปล่อยลูกดูทีวี เป็นออทิสติก
เกิดความสงสัยขึ้นมาเหมือนกันค่ะ สำหรับเจ้าทีวีที่เปรียบเสมือนปัจจัยที่ 6 ของคนเรา ว่าเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมากมาย
แต่สิ่งที่กังวลใจเป็นอันมากก็คือ มีผลทำให้เป็น โรคออทิสติก หรือที่รู้จักมักคุ้นตามภาษาชาวบ้านก็ เด็กเอ๋อ นี่แหล่ะ จริงหรือไม่...เราร่วมท้าพิสูจน์ไปด้วยกันเลยค่ะ
รู้จักโรคออทิสติก
โรคออทิสติก (Autistic Disorder) หรือ ออทิสซึม (Autism) เป็นความบกพร่องของพัฒนาการรูปแบบหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะ
นับเป็นเวลา 60 ปีแล้วค่ะ ที่นักวิชาการรู้จักโรคนี้ และพยายามศึกษารายละเอียดต่างๆ แต่ยังไม่สามารถหาสาเหตุของโรคได้ชัดเจน
ซึ่งเกณฑ์การวินิจฉัยโรคออทิสติก
มีความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน แสดงอาการอย่างชัดเจนในวัย 1-3 ปี ก่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านความสัมพันธ์ทางสังคม และการสื่อสารไม่เป็นไปตามปกติ มีพฤติกรรม ความสนใจ และกิจกรรมที่ผิดปกติ
ทุกวันนี้เราพบว่า เด็กชายป่วยเป็นออทิสติกมากกว่าเด็กหญิงถึงเกือบ 4 เท่า และเมื่อศึกษาหาต้นสายปลายเหตุที่เด็กจำนวนกว่า 300,000 คนในบ้านเราเข้าข่ายป่วยเป็นโรคนี้พบว่า เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน
ทีวีกับออทิสติก
เกิดเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ กรณีทีวีเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคออทิสติก ดร.ไมเคิล วาลด์แมน จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ในรัฐนิวยอร์ก จึงได้ทำการวิจัยเรื่องนี้ เนื่องจากไม่สามารถค้นหาสถิติพฤติกรรมการดูทีวีของเด็กเล็กได้ จึงใช้ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ต่างๆ เป็นเกณฑ์ในการช่วยประเมินเวลาที่เด็กทำกิจกรรมอยู่นอกบ้าน
สิ่งที่พบคือ
พื้นที่ที่มีฝนตกชุกที่สุด ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าทำให้เด็กมีเวลาอยู่บ้านดูทีวีมากขึ้นนั้น มีจำนวนเด็กออทิสติกมากที่สุด ในทางกลับกัน พื้นที่ที่ฝนตกน้อย จำนวนเด็กออทิสติกจะน้อยตามไปด้วย พื้นที่ที่มีลูกค้าเคเบิลทีวีหนาแน่นที่สุด มีจำนวนเด็กออทิสติกสูงสุดเช่นเดียวกัน
ผลการศึกษาประเมินว่า
เด็กออทิสติกเกือบ 40% ในการวิจัยป่วยเพราะดูทีวี พร้อมแนะนำพ่อแม่ไม่ให้ปล่อยลูกอายุต่ำกว่า 2 ขวบดูทีวี ส่วนเด็กที่โตกว่านั้นไม่ควรดูเกินวันละ 1 - 2 ชั่วโมง แม้ไม่พบความเชื่อมโยงโดยตรง
แต่เป็นไปได้ว่า การขาดการปฏิสัมพันธ์กับสังคมอาจทำให้เด็กที่มีความโน้มเอียงที่จะเป็นออทิสติก ปลีกตัวจากสังคม ซึ่งแปลว่าความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่เด็กยังอายุน้อยมาก เนื่องจากส่วนใหญ่มักตรวจพบอาการของโรคเมื่อเด็กอายุเพียง 3 ขวบเท่านั้น
Did You Know ?
การดูทีวีเพิ่มความเสี่ยงให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้นมากกว่าเด็กที่ไม่ดูถึงร้อยละ 10 เพราะสมองของเด็กที่เพิ่งเกิดช่วงอายุ 1 - 3 ปีแรกนั้นจะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว การดูทีวีหรือฟังรายการวิทยุที่มีการสลับรายการออกอากาศบ่อยๆ
จะทำให้สมองของเด็กถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา และเป็นการสื่อสารทางเดียวทำให้ไม่มีปฏิสัมพันธ์ตอบโต้ ส่งผลให้เด็กไม่เกิดการพัฒนาทั้งทักษะ ภาษา ผลที่ตามมาก็คือเมื่อถึงวัยเรียนเด็กที่ดูทีวีจะหัวช้ากว่าเด็กคนอื่น